วันอังคารที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2557

การตกแต่งครัวให้เกิดประโยชน์สูงสุด

การตกแต่งครัวให้เกิดประโยชน์สูงสุด 1403133

ปัจจุบันนี้ห้องครัวมีบทบาทมากกว่าแต่ก่อนมาก ทั้งในเรื่องการออกแบบ ประโยชน์ใช้สอย วัสดุ และความสวยงาม ซึ่งครัวในยุคใหม่ได้มีการปรุงแต่งโฉมหน้าให้ดูทันสมัยด้วยอุปกรณ์เครื่อง ใช้ไฟฟ้าต่างๆ เช่น เตาไฟฟ้า เตาอบ เครื่องดูดควัน ฯลฯ ที่นับว่าเป็นการพลิกโฉมห้องครัวได้อย่างน่าสนใจยิ่ง แต่ทั้งนี้การออกแบบก็ยังต้องคำนึงถึงเรื่องประโยชน์ใช้สอยเป็นหลัก เพราะเป็นเรื่องสำคัญที่จะทำให้ “ห้องครัว” เป็น “ห้องหัวใจ” สำคัญของทุกครัวเรือน ดังเช่นมุมครัวมุมเล็กๆ ที่คอลัมน์ “ของฝาก” นำมาเสนอในคราวนี้

การจัดวางแปลนที่มีการจัดทางสัญจรให้เกิดการไหลเวียน ด้วยเฟอร์นิเจอร์ที่อยู่ในตำแหน่งใช้สอยให้ดูเหมาะสม ทั้งขนาดของพื้นที่และการใช้สอยจริงในชีวิตประจำวัน

เกาะตรงกลาง และเตาแก็สทำหน้าที่วางอุปกรณ์ นำโต๊ะกาแฟมาวางชิด การสัญจรจะเป็นไปโดยรอบเกาะนี้ การจัดแปลนอย่างนี้เหมาะกับห้องที่ค่อนข้างกว้างและเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่ มีความยาวไม่มากนัก ส่วนของชั้นลอยอยู่ในระดับค่อนข้างสูงกว่าปกติ เพื่อเว้นช่องหน้าต่างๆ ไว้โครงไม้ทาแล็คเกอร์ด้าน ออกแบบให้ดูเรียบ ด้านบนใช้วางอุปกรณ์เครื่องใช้ ด้านล่างออกแบบเป็นราวเหล็กชุดโครเมียม ใช้แขวนสิ่งของเพิ่มแสงสว่างบริเวณท็อปของเคาน์เตอร์ด้วยไฟฮาโลเจน

บริเวณหน้าต่างออกแบบให้ดูโปร่งด้วยผ้าม่านในรูปแบบที่เรียบง่าย โดยทำเป็นสองชั้น ทั้งนี้เพื่อเปิดม่านในส่วนบนและส่วนล่างสลับกันเวลาใช้งาน เลือกใช้ผ้าที่ดูโปร่ง โทนสีออกขาวดูสะอาดตาเดินขอบและจับจีบผ้าให้ดูสวยงาม

ตู้เตรียมอาหาร เป็นส่วนบรรจุอ่างล้างจาน ออกแบบเป็นบิลท์อินติดผนังตรงบริเวณที่ใกล้กับหน้าต่าง ซึ่งมีแสงสว่างลอดเข้ามาไ ด้ ช่วยให้บริเวณนี้แห้งสะอาด ตัวตู้แต่งบานเปิดด้วยกระจกฝ้าเพื่อทำให้ดูเบาขึ้นขอบหน้าของตู้เตี้ยออกแบบ เป็นราวแขวนยาวตลอดแนวตู้เพื่อรับกับชั้นลอย แต่ส่วนนี้ก็ยังได้ประโยชน์ ในแง่ที่สามารถแขวนหรือตากผ้ากันเปื้อนได้

ตู้ชิดผนังเข้ามุมออกแบบเป็นตู้สูง ด้านหน้าโค้ง สูงประมาณ 2 เมตร จุดประสงค์เพื่อให้ดูรับกับพื้นที่ใช้สอยและทางสัญจร ความโค้งของตู้ช่วยลดความแข็งกระด้างของเหลี่ยมมุม เพื่อให้มีพื้นที่ว่างเพิ่มขึ้นในบริเวณที่ค่อนข้างจำกัด ด้านในเป็นชั้นกระจกใส ด้านบนติดไฟซ่อนเพดาน ด้านล่างเป็นตู้ทึบมีบานเปิด

ชุดรับประทานอาหาร จัดวางอยู่ในตำแหน่งตรงกลาง ขอบโต๊ะด้านหน้าออกแบบให้เป็นเส้นโค้ง ทั้งนี้เพื่อให้พื้นที่การสัญจรบริเวณรอบๆ เกิดการหมุนเวียนและไม่เกะกะพื้นที่ โต๊ะเก้าอี้สำหรับสองที่ดูเหมาะสำหรับครอบครัวขนาดเล็ก ส่วนที่ปรุงอาหารใช้เตาไฟฟ้าสองหัวขนาดเล็ก เพราะมีไว้เพียงเฉพาะยามจำเป็น แต่โอกาสที่จะปรุงอาหารจริงค่อนข้างน้อย ด้านล่างของตู้ออกแบบเป็นลิ้นชักเก็บอุปกรณ์เครื่องใช้ที่เน้นประโยชน์ใช้ สอยและความสวยงามที่ดีไซน์ควบคู่กันไป

วันเสาร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ชวนคุณมาทําความสะอาดบ้าน

ชวนคุณมาทําความสะอาดบ้าน 1403132
ห้องอ่านหนังสือ

หน้าต่าง
วิธีที่ง่ายและประหยัดที่สุดคือการใช้หนังสือพิมพ์ชุบน้ำแล้วเช็ด แต่ถ้าใครไม่ชอบกลิ่นของหมึกจากหนังสือพิมพ์ให้ใช้น้ำ 1 ส่วนผสมน้ำส้มสายชู 2ส่วน แล้วใช้ผ้าชุบเช็ดบริเวณกระจกหรือหน้าบานตู้เก็บหนังสือ เท่านี้กระจกก็จะกลับมาเหมือนใหม่แล้ว

ชั้นหนังสือบิลท์อิน
ส่วนใหญ่ตู้แบบบิลท์อินมักปิดผิวด้วยแผ่นลามิเนตหรือเมลามีนซึ่งทนต่อการขูด ขีด ฝุ่นหรือคราบสกปรกเกาะติดยากจึงง่ายต่อการทําความสะอาดง่าย เพียงใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆ เช็ด แต่จุดที่มักสกปรกคือบริเวณรอยต่อระหว่างแผ่นที่มักมีสิ่งสกปรกฝังแน่นให้ ใช้ผ้าชุบน้ำยาทําความสะอาดเฟอร์นิเจอร์ทั่วไปเช็ดออก

====================================================

ห้องนั่งเล่น

ผนังวอลล์เปเปอร์
หากเปื้อนคราบน้ำมันให้ใช้แป้งฝุ่นผสมกับน้ำยาทําความสะอาดป้ายบริเวณที่ เปื้อนคราบน้ำมัน ทิ้งไว้จนแห้งแล้วใช้ผ้าเช็ด คราบก็จะหลุดออกมา แต่วอลล์เปเปอร์บางชนิดต้องใช้น้ำยาทําความสะอาดเฉพาะตัว จึงควรสอบถามทางผู้จําหน่ายก่อนที่จะทําความสะอาด

พื้นไม้ลามิเนต
แม้พื้นลามิเนตจะไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องการดูแลรักษา แค่ใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำยาทําความสะอาดสัปดาห์ละครั้งก็พอ แต่หากเลอะสารเคมีให้ใช้ผ้าชุบทินเนอร์หรือน้ำมันสนเช็ดให้รอยเปื้อนออก แล้วใช้ผ้าชุบน้ำยาทําความสะอาดเช็ดซ้ำอีกครั้ง

เฟอร์นิเจอร์ไม้

คราบไขมันบนเฟอร์นิเจอร์ไม้ทําความสะอาดได้โดยใช้ผ้าชุบน้ำส้มสายชู 2 ช้อนโต๊ะ ผสมกับน้ำ 1 ช้อนโต๊ะ แล้วเช็ดบริเวณที่เปื้อน หากมีรอยขีดข่วนให้ใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำมันชักเงาถูจนรอยขีดข่วนจางไป เมื่อทําความสะอาดแล้วควรลงน้ำมันเพื่อช่วยรักษาเนื้อไม้อย่างสม่ำเสมอ

====================================================

ห้องนอน

ผ้าม่าน
การทําความสะอาดผ้าม่านขึ้นอยู่กับเนื้อผ้า ซึ่งผ้าม่านส่วนใหญ่มักมีเส้นใยสังเคราะห์เป็นส่วนประกอบจึงควรซักด้วยมือ โดยใช้น้ำยาซักผ้าซักกับน้ำอุ่น แต่อย่าบิด ไม่งั้นผ้าม่านสุดหรูอาจจะดูไม่จืดก็เป็นได้

ที่นอน
ไม่ว่าจะเป็นที่นอนแบบใด ให้หมั่นนําออกมาตากแดด เพื่อให้ที่นอนได้ถ่ายเทอากาศ ช่วยลดฝุ่นละออง และควรกลับด้านที่นอนเป็นประจําทุกๆ 3 เดือน หากมีรอยเปื้อนหรือคราบสกปรกให้ใช้ผ้าชุบน้ำสบู่เช็ดเบาๆ แล้วนําไปตากแดดให้แห้งก่อนนํากลับมาใช้งาน

พื้นไม้
นอกจากการกวาดถูตามปกติแล้ว พื้นไม้ในห้องนอนควรลงน้ำยาประเภทโพลียูรีเทนเพื่อป้องกันผิวไม้จากหยดน้ำ และคราบสกปรกต่างๆ หากเกิดรอยคราบบนผิวไม้ให้ใช้ผ้าชุบน้ำมันสนหมาดๆ แล้วเช็ดสักพักคราบสกปรกก็จะหายไป

เครื่องปรับอากาศ
ควรทําความสะอาดแผ่นกรองที่อยู่ ด้านในอย่างน้อยเดือนละครั้ง ด้วยการถอดออกมาจากเครื่องแล้วใช้น้ำฉีดทางด้านหลังของแผ่นให้ฝุ่นหลุดออกมา ส่วนการล้างเครื่องปรับอากาศแบบเต็มระบบควรทําอย่างน้อยปีละครั้งและควรยก ให้เป็นหน้าที่ของช่างจากศูนย์บริการจะดีที่สุด

====================================================

ห้องโฮมเธียเตอร์

พื้นพรม
ควรดูดฝุ่นอย่างสม่ำเสมอและทั่วถึงเพื่อไม่ให้เป็นที่สะสมของฝุ่นละอองหากต้อง การทําความสะอาดพรมทั้งผืนควรนําไปซักด้วยน้ำยาซักพรมโดยใช้แปรงขนอ่อนถูไป ในทิศทางเดียวกันให้ทั่วแล้วล้างน้ำตากให้แห้งถ้าเปื้อนคราบน้ำมันจากอาหาร ให้ใช้เบกกิ้งโซดาเทลงตรงบริเวณที่เปื้อนทิ้งไว้ประมาณ 12 ชั่วโมง แล้วใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดคราบก็จะจางหายไป
อุปกรณ์เครื่องเล่นภาพและเสียง
ควร หมั่นเช็ดฝุ่นละอองด้วยผ้านุ่มๆ (หรือผ้าไมโครไฟเบอร์) แต่ไม่ต้องชุบน้ำในบริเวณที่ไม่สามารถเอื้อมมือเข้าไปเช็ดได้ให้ใช้ลูกยาง เป่าลมไล่ฝุ่นแทน ส่วนโทรทัศน์ประเภทจอแบนให้ใช้น้ำยาสําหรับเช็ดหน้าจอโดยเฉพาะ (มีขายที่ร้านคอมพิวเตอร์) เช็ดเบาๆ รอให้แห้งสนิทจึงจะใช้งานได้ และใครอยากจะใช้สเปรย์ป้องกันไฟฟ้าสถิตพ่นที่ตัวเครื่องเพื่อป้องกันฝุ่น ละอองอีกรอบก็ไม่มีปัญหา

วัสดุบุผนัง
ถ้าใช้แผ่นยิปซัมสําหรับดูดเสียงซึ่งจะมีรูพรุนมาก ควรดูดฝุ่นเป็นประจําหรือใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆ เช็ด หากมีรอยเปื้อนที่เช็ดไม่ออกให้ใช้สีที่ใกล้เคียงแต้มเพื่อปิดรอยเปื้อน หากเป็นผ้าบุผนังชนิดที่ถอดมาซักไม่ได้ ให้ทําความสะอาดด้วยการดูดฝุ่นเช่นกัน ถ้าเป็นคราบให้ใช้น้ำสบู่อ่อนเช็ดแล้วใช้ดรายเป่าผมเป่าให้แห้ง

====================================================
ห้องน้ำ

กระเบื้องพื้น-ผนัง
ส่วนใหญ่คราบสกปรกและเชื้อราดํามักจะเกิดขึ้นในห้องน้ำที่อับชื้นโดยเฉพาะบริเวณ ร่องยาแนวกระเบื้องหรือมุมห้องที่มีน้ำขัง ควรทําความสะอาดโดยใช้น้ำยาฆ่าเชื้อราฉีดบริเวณที่เกิดเชื้อรา ทิ้งไว้สักครู่แล้วใช้แปรงขัดออก นอกจากนั้นแล้วควรป้องกันเชื้อราดําอย่างถาวรด้วยการติดตั้งพัดลมดูดอากาศ หรือช่องเปิดที่ให้แสงสว่างและมีการระบายอากาศได้

ปูนเปลือย
คุณสมบัติของปูนเปลือยนั้นไม่เหมือน กระเบื้อง ทำให้เกิดตะไคร่น้ำได้ง่ายกว่าจึงต้องหมั่นทําความสะอาดและดูแลรักษาให้ แห้งอยู่เสมอ ในจุดที่เกิดตะไคร่น้ำ ให้ฉีดน้ำยาฆ่าเชื้อราและตะไคร่น้ำบนพื้นผิวปูนเปลือยทิ้งไว้ประมาณ 10 นาทีแล้วล้างออก หลังจากพื้นผิวแห้งสนิทให้ใช้น้ำยาป้องกันตะไคร่น้ำมาเคลือบพื้นผิวทิ้งไว้ ประมาณ 1 – 2 ชั่วโมง แล้วจึงทาอีกครั้งก็จะช่วยแก้ปัญหานี้ได้

สุขภัณฑ์ห้องน้ำ
สุขภัณฑ์ห้องน้ำส่วนใหญ่มักจะเป็น สีขาวและปัญหาที่พบมากก็คือเมื่อใช้งานไปนานวัน สุขภัณฑ์ก็จะดูหม่นหมอง ไม่สดใสเหมือนวันแรกที่ซื้อมา คุณสามารถแก้ปัญหานี้ได้ด้วยการใช้คลอรีนผสมน้ำแล้วเทลงในอ่างล้างหน้า ทิ้งไว้ประมาณครึ่งชั่วโมง หากเป็นโถสุขภัณฑ์ให้ใช้แปรงขนอ่อนชุบคลอรีนแล้วขัดเบาๆ แล้วล้างด้วยน้ำสะอาด เท่านี้สุขภัณฑ์ของคุณก็สะอาดเหมือนใหม่

====================================================

ห้องครัว

พื้นกระเบื้อง
จุดที่ควรระวังของพื้นห้องครัวคือบริเวณร่องระหว่างแผ่นที่มักมีสิ่งสกปรกตก ค้างอยู่แม้จะยาแนวแล้วก็ตาม ต้องหมั่นทําความสะอาดด้วยการใช้แปรงขนอ่อนชุบน้ำสบู่หรือผงซักฟอกแล้วขัด เบาๆ ถ้าเกิดเชื้อราควรใช้น้ำยาทําความสะอาดชนิดมีสารป้องกันเชื้อราก็จะช่วยได้

ผนังทาสี
คราบสกปรกจากการทําอาหาร ไอน้ำมัน ความชื้นต่างๆ มักเกาะติดอยู่ตามผนังครัว โดยเฉพาะบริเวณที่ปรุงอาหาร ต้องหมั่นใช้ผ้าชุบน้ำยาทําความสะอาดเช็ดเป็นประจํา หากมีโอกาสทาสีใหม่ก็ควรเลือกใช้สีทาผนังประเภทเช็ดล้างได้ซึ่งช่วยให้ทํา ความสะอาดง่ายและคราบสกปรกเกาะติดยากขึ้นด้วย

อุปกรณ์ครัว
สิ่งสกปรกที่พบมากคือคราบไขมันจากการ ปรุงอาหารจึงควรหมั่นทําความสะอาดอุปกรณ์ทําครัวด้วยการนํามาแช่น้ำยาทํา ความสะอาดเครื่องครัวหรือน้ำร้อนก่อนที่จะนําไปล้าง เพราะจะช่วยทําให้คราบสกปรกที่ติดอยู่หลุดออกมาได้ง่ายขึ้นกว่านําไปล้างเลย ทันที

วันจันทร์ที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2557

เทคนิคการแต่งบ้านแบบประหยัด

เทคนิคการแต่งบ้านแบบประหยัด 1403131
มาดูเทคนิคการแต่งบ้านแบบประหยัดให้เข้ากับเศรษฐกิจในยุคนี้กัน

1.ทาสีผนังใหม่

ลงทุนเลือกซื้อสีทาภายในที่ชอบมาซักกระป๋อง แล้วเลือกวันว่าง ๆ สุดสัปดาห์ รวมพลคนในครอบครัวให้มาช่วยกันทาสีห้องใหม่ ไม่เพียงแต่จะได้ห้องที่แปลกตาไปจากเดิม แต่ยังได้ร่วมทำกิจกรรมกันในครอบครัว เพียงเท่านี้ผนังห้องเรียบ ๆ สีขาวก็จะเปลี่ยนไปเป็นรูปแบบใหม่ที่น่าตื่นตาตื่นใจ  รับรองได้ว่าคุ้มค่าการลงทุนอย่างแน่นอน

2.ตกแต่งห้องใหม่

ลองดูซิว่า ตอนนี้บ้านของคุณมีอะไรอยู่แล้วบ้าง มุมนั้นวางของรกเกินไปรึป่าว หรือว่ามีรูปสวย ๆ ไปวางเก็บทิ้งไว้ในห้องเก็บของ ทำไมไม่ลองจัดแต่งบ้านใหม่ โดยเลือกเอาของที่คุณมีอยู่เดิมมาวางในมุมที่เปลี่ยนไป เช่น โต๊ะเขียนหนังสือตัวเก่าที่ลูกสาวไม่ใช้แล้ว ลองเอามาจัดวางในห้องรับแขก เป็นมุมไว้สำหรับโชว์ของ หรือว่าภาพฝีมือลูกชายสมัยยังเด็กที่ยังเก็บไว้ ลองเอามาประดับตกแต่งผนังบ้านของคุณดูสิ รับรองได้ว่าให้ความรู้สึกย้อนความหลังได้ดีทีเดียว

3.เลือกแสงอย่างชาญฉลาด

ลองติดตั้งตัวปรับระดับแสงให้กับสวิชไฟในห้องของคุณ รับรองได้ว่าจะช่วยเปลี่ยนความรู้สึก รวมถึงสามารถปรับแสงให้เหมาะกับการใช้งานในแต่ละเวลาได้ด้วย  แต่ถ้าหากเป็นเรื่องยากเกินไปนัก  ลองเลือกโคมไฟเก๋ ๆ มาตั้งสองข้างขนาบกับโซฟาตัวโปรดของคุณในห้องนั่งเล่น  หรือจะเปลี่ยนที่ครอบอันใหม่ให้เรียบหรู ดูมีสไตล์กว่าเดิมก็ไม่ว่ากัน

4.หมอนอิงช่วยได้

ถ้าหากว่าการลงทุนซื้อโซฟาตัวใหม่ซักตัว ทำให้คุณต้องคิดหนักเรื่องราคาแล้วหล่ะก็ ขอแนะนำว่าเพียงเลือกหมอนอิงลายสวยเก๋ถูกใจหลาย ๆ ใบมาวางประดับลงบนโซฟาตัวเก่า เพียงเท่านี้คุณก็จะได้ห้องใหม่ หมอนใหม่ และโซฟารูปแบบใหม่ ที่แตกต่างไปจากเดิมแล้วหล่ะค่ะ

5.นอนอย่างมีสไตล์

ห้องนอนของคุณก็ต้องการ การเปลี่ยนแปลงด้วยรึเปล่า? ลองเปลี่ยนหัวเตียงใหม่ดูสิ หรือจะเลือกภาพวาดอันใหญ่มาประดับผนังก็ไม่เลวนะ นอกจากจะช่วยเพิ่มอะไรให้กับผนังห้องของคุณแล้ว  การเลือกตกแต่งที่ดูหนักแน่นยังช่วยทำให้ห้องของคุณดูมีแนวทางที่ชัดเจนและ มีเสน่ห์  หรือว่าอยากจะลองเลือกรูปแบบผสมผสานก็ไม่ว่ากัน  ตัวเตียงใหม่กับโต๊ะตัวเก่า หรือจะหัวเตียงเก่ากับโต๊ะตัวใหม่คงแล้วแต่ใครจะชอบแบบไหน คงต้องเลือกกันเอาเอง

6.ลองใช้กระจกซิจ๊ะ

หากว่าภาพวาดหรืองานศิลปะที่คุณอยากจะได้มาประดับห้องของคุณมีราคาสูงเกินงบ ไปหน่อย ทำไมไม่ลองหันมาเลือกใช้กระจกประดับห้องดูหล่ะ เพียงนำกระจกไปเข้ากรอบที่คุณชอบ แล้วก็มาวางเรียงประดับห้อง อยากได้มากได้น้อยก็สามารถตกแต่งเลือกได้ตามใจตัวเอง  นอกจากจะให้ลูกเล่น และผลลัพธ์ที่แปลกตาแล้ว  ยังช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าได้อย่างดีอีกด้วย

7.พิจารณาเรื่องขนาด

เรื่องของขนาดนั้นมีผลมากทีเดียวกับความรู้สึกของคน  ไม่ว่าห้องของคุณมีขนาดเล็กแค่ไหน แต่ถ้ามีของประดับชิ้นใหญ่ซักชิ้น รับรองได้ว่าช่วยทำให้ห้องคุณดูแกรนด์ขึ้นได้มากทีเดียว  ลองเลือกภาพพิมพ์ชิ้นใหญ่ ๆ มาวางประดับผนัง หรือจะเลือกงานประติมากรรมที่ชื่นชอบซักชิ้นก็ไม่ว่ากัน

8.ของเก่าทำใหม่

แม้จะเป็นเก้าอี้ตัวเก่าที่เริ่มจะออกสีเหลือง ๆ แต่โครงไม้ที่สวยงามนั้นคงทำให้ทิ้งมันไม่ลง  ทำไมไม่ลองนำเอาเฟอร์นิเจอร์เก่าที่มีไปปรับเปลี่ยนเบาะใหม่  แล้วก็ทาสีซะใหม่ เพียงเท่านี้เก้าอี้ตัวเก่งของคุณก็จะดูใหม่และเก๋เหมาะกับห้องของคุณ

9.จัดการกับหน้าต่างของคุณ

ลองเลือกผ้าม่านที่เหมาะกับหน้าต่างและห้องของคุณ  บางคนอาจคิดว่าเป็นเรื่องไม่สำคัญ แต่ว่าผ้าม่านเป็นตัวกรองแสงที่จะเข้ามาภายในห้อง รวมไปถึงรูปแบบและลวดลายของผ้าม่านยังสามารถแสดงรสนิยมและบุคลิกของเจ้าของ ได้อีกด้วย  ทำไมไม่ลองเปลี่ยนผ้าม่านห้องนั่งเล่นหรือส่วนทานอาหารของคุณดูหล่ะ เพียงเท่านี้ห้องคุณก็จะเปลี่ยนไปอย่างไม่เคยเห็นมาก่อน

10.สร้างสรรค์ผลงานให้บ้านด้วยตัวเอง

หลังจากเลือกสรรหางานศิลปะสวย ๆ เพื่อมาประดับห้องอยู่นาน  อาจไม่พบที่ถูกใจหรือว่ามีราคาแพงเกินไป  ทำไมไม่ลองมาสร้างสรรค์ผลงานเองดูหล่ะ  อาจจะทำแบบง่าย ๆ ซึ่งเหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบวาดรูป โดยหารูปในนิตยสารที่ชอบ มาแปะซ้อนทับกัน ตกแต่งสร้างภาพขึ้นเองใหม่ แล้วใส่กรอบ  หรือใครคนไหนมีฝีมือ ก็อวดโฉมได้เต็มที่ เพียงเท่านี้  เทคนิคง่าย ๆ เราก็สามารถตกแต่งบ้านสวยราคาประหยัดกันได้แล้วหล่ะค่ะ